ในปัจจุบัน การค้าขายระหว่างประเทศไทยและประเทศจีนมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ช่องทางการสั่งของจากจีนมีให้เลือกหลากหลายมากขึ้นเช่นกัน ผู้ประกอบการและผู้บริโภคจึงสามารถเลือกช่องทางที่สะดวกและเหมาะสมกับความต้องการได้ และช่องทางการสั่งของจากจีน มีหลายช่องทาง ดังนี้

สั่งผ่านเว็บไซต์จากจีนโดยตรง : ช่องทางการสั่งของจากจีนที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ การสั่งผ่านเว็บไซต์จากจีนโดยตรง ซึ่งมีข้อดีคือ สามารถเลือกสินค้าได้หลากหลาย คุณภาพดี ราคาย่อมเยา และสามารถเปรียบเทียบราคาได้ เว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมในการสั่งของจากจีน ได้แก่ AliExpress เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่ระดับโลก มีสินค้าให้เลือกหลากหลายประเภท เช่น อิเล็กทรอนิกส์ เสื้อผ้า อุปกรณ์กีฬา เครื่องสำอาง เป็นต้น , Taobao เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่ของจีน มีสินค้าให้เลือกหลากหลายประเภทเช่นกัน แต่ส่วนใหญ่เป็นสินค้าจากผู้ผลิตโดยตรง จึงมีราคาถูกกว่าเว็บไซต์อื่น ๆ และ1688 เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซสำหรับธุรกิจ B2B มีสินค้าให้เลือกหลากหลายประเภท เหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการซื้อสินค้าจำนวนมาก

สั่งผ่านเว็บไซต์ไทยที่รับหิ้วสินค้าจากจีน : ช่องทางนี้เหมาะสำหรับผู้ประกอบการและผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวก ไม่ต้องเสียเวลาแปลภาษาจีน และไม่ต้องกังวลเรื่องการชำระเงินและภาษี เว็บไซต์ไทยที่รับหิ้วสินค้าจากจีน ได้แก่ Weshopchina เว็บไซต์รับหิ้วสินค้าจากจีนครบวงจร มีสินค้าให้เลือกหลากหลายประเภท เช่น Taobao2you เว็บไซต์รับหิ้วสินค้าจาก Taobao และ 1688 หรือShopee เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซในประเทศไทย มีสินค้าจากจีนให้เลือกหลากหลายประเภท

ใช้บริการขนส่งสินค้าจากจีน : ช่องทางนี้เหมาะสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการสั่งของจากจีนเป็นครั้งคราว โดยไม่ต้องสมัครสมาชิกเว็บไซต์จากจีนหรือเว็บไซต์ไทยที่รับหิ้วสินค้า จะมีผู้ให้บริการขนส่งสินค้าจากจีน ได้แก่ China Post บริการขนส่งสินค้าจากจีนที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ราคาถูก แต่ใช้เวลาจัดส่งนาน SF Express บริการขนส่งสินค้าจากจีนที่รวดเร็วกว่า China Post แต่ราคาสูงกว่า YTO Express บริการขนส่งสินค้าจากจีนที่ราคาถูกกว่า China Post แต่จัดส่งสินค้าได้ช้ากว่า

ใช้บริการ Drop Shipping : ช่องทางนี้เหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการจำหน่ายสินค้าจากจีนโดยไม่สต๊อกสินค้าไว้เอง เมื่อลูกค้าสั่งสินค้าจากร้านผู้ประกอบการ ผู้ประกอบการจะสั่งสินค้าจากSupplierในจีนและส่งต่อให้ลูกค้าโดยตรง  และ Supplierในจีนที่ให้บริการ Drop Shipping ได้แก่ AliExpress เว็บไซต์ AliDropship เป็นบริการ Drop Shipping ของAliExpress , Shopify แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ให้บริการ Drop Shipping ผ่านแอปพลิเคชัน และ WooCommerce แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ให้บริการ Drop Shipping ผ่าน plugin

ใช้บริการ Crowdfunding : ช่องทางนี้เหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการระดมทุนเพื่อผลิตสินค้าจากจีน ผู้ประกอบการจะสร้างโครงการบนเว็บไซต์ Crowdfunding และเปิดรับเงินสนับสนุนจากนักลงทุน เมื่อโครงการประสบความสำเร็จ ผู้ประกอบการจะผลิตสินค้าและส่งมอบให้กับผู้สนับสนุน เว็บไซต์ Crowdfunding ที่ได้รับความนิยม ได้แก่ Kickstarter เว็บไซต์ Crowdfunding ระดับโลก , Indiegogo เว็บไซต์ Crowdfunding ระดับโลก ,TaoBao Tmall Global เว็บไซต์ Crowdfunding ของTmall

ใช้บริการ Cross-Border E-commerce : ช่องทางนี้เหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการจำหน่ายสินค้าจากจีนผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในประเทศไทย ผู้ประกอบการจะต้องจดทะเบียนพาณิชย์และเสียภาษีนำเข้าสินค้า แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยที่ได้รับความนิยม ได้แก่ Shopee , Lazada และ JD Central เป็นต้น

ช่องทางที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเพียงตัวอย่ายังมีอีกหลายช่องทางในการสั่งของจากจีน และคำแนะนำในการสั่งของจากจีนในการสั่งของจากจีน ผู้ประกอบการและผู้บริโภคควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้ นอกจากนี้ ผู้ประกอบการและผู้บริโภคควรศึกษาเกี่ยวกับความเสี่ยงต่าง ๆ ในการสั่งของจากจีน เช่น สินค้าปลอม สินค้าคุณภาพต่ำ ปัญหาการขนส่งสินค้าล่าช้า เป็นต้น การสั่งของจากจีนเป็นช่องทางที่สะดวกและเข้าถึงง่ายสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อสินค้าจากจีน ผู้ประกอบการและผู้บริโภคควรพิจารณาช่องทางที่เหมาะสมกับความต้องการและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

Tags: